วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

ประวัติพังงา

พังงา เป็นจังหวัดที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าเขา มีพื้นที่ 4,170.895 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 788 กิโลเมตร ชื่อของจังหวัดพังงานั้นเดิมน่าจะเรียกว่า “เมืองภูงา” ตามชื่อเขางา หรือเขาพังงา ซึ่งอยู่ในตัวเมืองพังงาในปัจจุบัน เมื่อตั้งเมืองขึ้นจึงเรียกกันว่า “เมืองภูงา” เมืองภูงานี้อาจจะตั้งชื่อให้คล้องจองเป็นคู่กับเมืองภูเก็ตมาแต่เดิมก็ได้ แต่เหตุที่เมืองภูงากลายเป็นเมืองพังงานั้น สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเมืองภูงาเป็นเมืองที่มีแร่อุดมสมบูรณ์จึงมีฝรั่งมา ติดต่อซื้อขายแร่ดีบุกกันมาก และฝรั่งเหล่านี้คงจะออกเสียงเมืองภูงาเป็นเมือง “พังงา” เพราะแต่เดิมฝรั่งเขียนเมืองภูงาว่า PHUNGA หรือ PUNGA ซึ่งอาจอ่านว่า ภูงา หรือจะอ่านว่า พังงา หรือ พังกา ก็ได้

ประวัติศาสตร์เมืองพังงา

       จากพงศาวดารปรากฏว่าก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นั้น เมืองพังงาเป็นเมืองแขวงขึ้นอยู่กับเมืองตะกั่วป่า จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองเทียบเท่าเมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง และโอนเมืองจากฝ่ายกรมท่ามาขึ้นเป็นฝ่ายกลาโหมตั้งแต่นั้นมา ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชดำริที่จะปรับปรุงบูรณะหัวเมืองชายฝั่งตะวันตกที่ถูกพม่าตี จึงได้แต่งตั้งข้าราชการมาเป็นเจ้าเมือง และให้ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ โดยแต่งตั้งให้พระยาบริรักษ์ภูธร (แสง ณ นคร) เป็นเจ้าเมืองพังงาคนแรกในปี 2383 ต่อมาเมืองตะกั่วทุ่งถูกยุบเป็นอำเภอขึ้นกับเมืองพังงา ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 7 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ประชุมเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ตจึงมีมติให้ยุบเมืองตะกั่วป่าขึ้นกับจังหวัด พังงาด้วย ตั้งแต่ พ.ศ. 2474 เป็นต้นมา แรกเริ่มที่ตั้งเป็นเมืองนั้นสถานที่ราชการอยู่ที่บ้านชายค่าย ต่อมา พ.ศ. 2473 จึงได้มาสร้างศาลากลางจังหวัดขึ้นที่บ้านท้ายช้าง ครั้น พ.ศ. 2515 จึงได้สร้างศาลากลางหลังใหม่ขึ้นบริเวณหน้าถ้ำพุงช้างจนถึงปัจจุบัน

จังหวัดพังงาแบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอคุระบุรี อำเภอทับปุด อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง และอำเภอเกาะยาว  

เกี่ยวกับพังงา

คำขวัญประจำจังหวัดพังงา
          
แร่หมื่นล้าน    บ้านกลางน้ำ    ถ้ำงามตา    ภูผาแปลก   แมกไม้จำปูน   บริบูรณ์ด้วยทรัพยากร

ความหมาย

          แร่หมื่นล้าน หมายถึงแร่ดีบุกซึ่งทำรายได้ให้จังหวัดพังงามากที่สุดมาแล้ว
          บ้านกลางน้ำ หมายถึงหมู่บ้านเกาะปันหยี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางทะเลในอ่าวพังงา
          ถ้ำงามตา   หมายถึง   ถ้ำต่าง  ๆ  ในจังหวัดพังงาโดยเฉพาะในอ่าวพังงา  ซึ่งมีมากมาย  ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก
          ภูผาแปลก หมายถึงภูเขาที่มีลักษณะแปลกเป็นลักษณะของภูเขาพิงกัน
          แมกไม้จำปูน หมายถึงดอกจำปูนซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดพังงา
          บริบูรณ์ด้วยทรัพยากร    หมายถึง    ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่มีในจังหวัดพังงา


ตราประจำจังหวัด












รูปเขาช้าง     หมายถึง
สัญลักษณ์ภูเขาสูงรูปช้าง ซึ่งอยู่หลังศาลากลางจังหวัดพังงา ประวัติศาสตร์กล่าวว่า  ในพ.ศ. 2532  พม่ายกกองทัพมาตีหัวเมืองฝ่ายใต้ (ตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง ถลาง) ราษฎร์บางส่วนที่ไม่มีอาวุธและกำลังจะต่อสู้ต้องอพยพไปหลบภัยอยู่ในบริเวณ ลุ่มแม่น้ำพังงา ซึ่งมีภูเขาล้อมรอบ และตั้งหลักแหล่งอยู่ตรงนั้นตลอดมา
รูปเรือขุดแร่   หมายถึง
สัญลักษณ์การประกอบอาชีพในอดีตของจังหวัดพังงาที่มีอาชีพหลัก ทางด้านการทำเหมืองแร่ดีบุก สามารถผลิตแร่ดีบุกได้เป็นอันดับหนึ่ง  ของประเทศและเป็นที่ยอมรับกันว่าในอดีตนั้นเศรษฐกิจและอาชีพของจังหวัดพังงา ขึ้นอยู่กับแร่เป็นสำคัญ
รูปเขาตะปู   หมายถึง
สัญลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา


ต้นไม้ประจำจังหวัด






ชื่ออื่น จะไคหอม  จะไคต้น  จวงหอม  พลูต้นขา






แผนที่


แหลมนกออก



แหลมนกออก เป็น หาดทรายประกอบด้วยโขดหิน และก้อนหินหลากสีสวยงาม สามารถเล่นน้ำได้นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเกาะยาวยังมีเกาะเล็ก ๆ ที่มีหาดทรายขาวสะอาด และมีทิวทัศน์งดงาม เช่น เกาะไข่นอก เกาะไข่ใน เกาะมดตะนอย และเกาะห้อง (อยู่ในเขตจังหวัดกระบี่)
แหลมนกออก ตั้งอยู่ที่เกาะยาวใหญ่ เป็นอ่าวที่ธรรมชาติสวยงามมีหาดทรายที่มีโขดหินและก้อนหินหลากสีสวยงาม สามารถเล่นน้ำได้นอกจากนี้สภาพป่ารอบแหลม ส่วนใหญ่จะแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมณ์สมบูรณ์ และมีพรรณไม้ ต้นไม้ต่างๆที่ค่อนข้างแปลกตา ถือว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนอย่างมาก
แหลมนกออก อยู่ที่หมู่ 2 ต.พรุใน ทางเข้าเป็นซอยบ้านนาคลอง (ซอยเล็กๆ ระหว่างโรงเรียนบ้านพรุใน) ใช้เวลาขับรถเข้าไปประมาณ 20 นาที เห็นจะได้ เส้นทางเป็นลูกรัง บางช่วงเป็นทาง
ลาดชันต้องระวังหน่อยครับ ติดกับทะเลฝั่ง จ.กระบี่ครับ ซึ่งสภาพแวดล้อม ทิวทัศน์จะเหมือนหาดท่าแค หมู่ 1 ต.พรุใน


แหลมปะการัง

แหลมปะการัง อยู่ระหว่างเส้นทางตะกั่วป่า-เขาหลัก จากตัวเมืองตะกั่วป่าเลี้ยวขวา กิโลเมตรที่ 78–79 เข้าไปอีก 5 กิโลเมตร เป็นหาดทรายที่มีซากปะการังเขากวางหักอยู่เต็มหาด เล่นน้ำได้ บรรยากาศ ร่มรื่นด้วยแนวสน ช่วงเย็นๆ เหมาะที่จะนั่งชมพระอาทิตย์ตก และใกล้ๆ แหลมปะการังยังมีที่พักสวยๆ บรรยากาศดี ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนอีกด้วย ชายหาดกว้างที่เกลื่อนกลาดไปด้วยซากปะการังชนิดต่างๆ ที่ถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาไว้บนพื้นทราย เป็นที่จอดเรือของชาวประมงท้องถิ่น มีแนวปะการังน้ำตื้นพ้นน้ำให้เห็นเป็นแนว จึงได้ชื่อว่าแหลมปะการัง บรรยากาศร่มรื่นด้วยแนวสนทะเล หาดทรายเล่นน้ำได้ และยังเป็นที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

บ่อน้ำพุร้อนบ้านบ่อดาล



น้ำพุร้อน บ้านบ่อดาน เป็นของเอกชน รอบบริเวณจัดเป็นสวนสวยงามร่มรื่น มีน้ำแร่อุ่น ๆ ไหลวนเวียนอยู่ในสระ เหมาะสำหรับการแช่เพื่อการพักผ่อนคลายความเครียด บรรเทาอาการปวดข้อ กระดูก เหน็บชา ตลอดจนบำรุงผิวพรรณ และเส้นผม
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่านา อยู่ห่างจากตัวอำเภอกะปง 8 กม. มีน้ำแร่ไหลผ่านซอกชั้นหินต่างๆ ตามหุบเขา ทางอำเภอได้จัดบ่อกักน้ำแร่ไว้ น้ำแร่มีอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส
บ่อน้ำพุร้อน บ้านบ่อดาน อยู่ตำบลบ่อดาน ห่างจากตัวเมืองพังงา 43 กิโลเมตร ตามเส้นทางพังงา -โคกกลอย เมื่อถึงสี่แยกโคกกลอย ขับตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นป้ายบ่อน้ำพุร้อนให้เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 3 กิโลเมตร น้ำพุร้อน บ้านบ่อดาน เป็นของเอกชน รอบบริเวณจัดเป็นสวนสวยงามร่มรื่น มีน้ำแร่อุ่น ๆ ไหลวนเวียนอยู่ในสระเหมาะสำหรับการแช่เพื่อการพักผ่อนคลายความเครียด บรรเทาอาการปวดข้อ กระดูก เหน็บชา ตลอดจนบำรุงผิวพรรณ และเส้นผม เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00–21.00 น. อัตราค่าบริการ ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท 

น้ำตกเต่าทอง

น้ำตกเต่าทอง อยู่ในเขตตำบลบ่อแสนห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 9 กิโลเมตรครับ การเดินทางต้องใช้เส้นทาง สายเดียวกับทางไปวนอุทยานสระนางมโนห์รา เลยไปถึงหมู่ที่ 3 ตำบลบ่อแสน จะมีทางลูกรังแยกเข้า น้ำตกอีก 11 กิโลเมตร

สถานที่ตั้ง อยู่หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อแสน ห่างจากตัวเมืองพังงา 19 กิโลเมตร อยู่ก่อนถึงอำเภอทับปุด 8 กิโลเมตร

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ พังงา

   สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ พังงา คือ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 80 พรรษา ลำดับที่ 9 ตั้งอยู่ใกล้ศาลากลางจังหวัดพังงา อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา มีเนื้อที่ 162 ไร่ 294 ตารางวา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นประธานเปิดสวนเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2532
หน่วยงานรับผิดชอบในการดูแลรักษา คือ เทศบาลเมืองพังงา ต้นไม้ประจำสวน คือ ตะเคียนทอง

 สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ พังงา ส่วนหนึ่งเป็นสวนสาธารณะเดิมของเทศบาลเมืองพังงา ณ บริเวณที่เรียกว่า "ถ้ำคูหาสวรรค์" เป็นพื้นที่กลางเมืองสามารถมองเห็น "เขาช้างหมอบ" สัญลักษณ์ของจังหวัด บริเวณสวนมีไม้ใหญ่เดิมซึ่งเป็นไม้ป่าขึ้นร่มรื่น มีการปลูกพรรณไม้ใหม่เพิ่มเติมเพื่อความสวยงาม ภายในสวนมีสระน้ำที่เกิดจากการแตกแยกของผิวดินตามธรรมชาติมีน้ำเป็นน้ำทะเล มีการสร้างสะพานข้ามลำธาร เขาหินปูนในบริเวณนี้มีถ้าหลายแห่ง ภายในมีหินงอกหินย้อย ในถ้ำมีลำธารไหลลอดถำทั้งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็มที่เกิดจากการขึ้นลงของน้ำทะเล ทำให้มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่หลากหลาย มีการสร้างสะพานข้ามลำธารระหว่างถ้ำให้เชื่อมต่อกัน หินของภูเขามีสีและลวดลายแปลกและมีฝูงลิงอาศัยอยู่ ภายในถ้ำฤษีสวรรค์มีรอยจารึกพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 พระนานามาภิไธยของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระนามาภิไธยของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ประดิษฐานอยู่บนผนังถ้า พระมาภิไธยและพระนามาภิไธยนี้ได้จารึกไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาจังหวัดพังงาและทรงแวะเยี่ยมสวนนี้

ถ้ำพุงช้าง

ถ้ำพุงช้าง

        ภายใน ภูเขาช้าง สัญลักษณ์ของเมืองพังงาซึ่งรูปลักษณ์คล้ายช้างหมอบนี้ มี ถ้ำพุงช้าง ซึ่งอยู่ภายในบริเวณวัดประจิมเขต หลังศาลากลางจังหวัด ถนนเพชรเกษม เป็นถ้ำใหญ่ที่อยู่ใจกลาง เขาช้าง ซึ่งเรียกบริเวณนี้ว่า " พุงช้าง " ประกอบด้วยถ้ำเล็กถ้ำใหญ่มากมายและเป็นถ้ำที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เคยเสด็จฯมาเยือน และได้ทรงลงพระปรมาภิไธยไว้ทางด้านหน้าของถ้ำ ภายในถ้ำมีความงดงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติของหินงอกหินย้อยที่มีสภาพที่สมบูรณ์ มีสายน้ำไหลผ่านกลางถ้ำแสดงให้เห็นถึงการไหลเวียนและการถ่ายเทของอากาศตลอดเวลา มีทั้งช่วงน้ำลึกและช่วงน้ำตื้น การเที่ยว ถ้ำพุงช้าง ถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เพราะนักท่องเที่ยวจะต้องเดินลุยน้ำ นั่งแพ และนั่งเรือแคนนู
 เพื่อเข้าไปชมหินงอกหินย้อยที่เป็นฝีมือธรรมชาติ หยดน้ำที่หยดจากติ่งปลายของหินงอกหินย้อย เมื่อกระทบกับแสงไฟฉายของเรา ก็เกิดประกายเหมือนประกายเพชร หินงอกหินย้อยมีลักษณะของรูปคนตกปลา รูปแป๊ะยิ้ม รูปปลา โดยเฉพาะช้างหลากรูปแบบที่แปลกตาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นหินงอกหินย้อยรูปช้างร้อย ๆ เชือกเดินตามกันเป็นวงรอบ หินงอกรูปช้างนั่งอยู่ใต้ฉัตรภายในถ้ำ บันไดสีทองเกิดจากหินงอกอันวิจิตรยิ่งเมื่อถูกแสงไฟจะเป็นประกายสวยงามมาก การเดินเที่ยว ถ้ำพุงช้าง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง การแต่งกายควรสวมขาสั้น รองเท้าแตะที่เป็นยาง นอกจากนี้แล้ว ถ้ำพุงช้าง เป็นแหล่งที่สองของประเทศไทย ที่มีการค้นพบค้างคาวคุณกิตติ ซึ่งเป็นค้างคาวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก"ถ้ำพุงช้าง" เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่ซ่อนกายอยู่ภายในใจกลางภูเขาช้าง ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองพังงา มีรูปลักษณ์เหมือนช้างหมอบ ถ้ำพุงช้างนี้ถือว่าเป็นถ้ำที่ยังมีความบริสุทธ์ของธรรมชาติ และเป็นถ้ำที่มีชีวิต คือยังมีการเจริญเติบโตของพวกหินงอก หินย้อยต่างๆ อยู่มาก และเป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งถ้ำ 
  ถ้ำแห่งนี้มีความยาวประมาณ 1,200 เมตร ใช้เวลาในการเที่ยวชมประมาณ 1.30 ชม. โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำถ้ำเป็นไกด์คอยนำทาง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานผจญภัยไปในถ้ำพุงช้าง ด้วยพาหนะอันหลากหลาย เริ่มจากปากถ้ำจะได้นั่งเรือแคนูล่องเข้าไปภายในถ้ำ เพื่อชมความสวยงามของหินงอก หินย้อย รูปต่างๆ บ้างก็เป็นรูปช้างยืนอยู่ บ้างก็เป็นรูปจระเข้ตัวใหญ่ และเมื่อมองขึ้นไปบนเพดานถ้ำจะได้เห็นค้างคาวอาศัยอยู่มากมาย
        เมื่อนั่งเรือแคนูเข้าสู่ถ้ำด้านในช่วงหนึ่งแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนอารมณ์ด้วยการให้นั่งแพไม้ไผ่ล่องผ่านเข้าไปตามช่องทางของโขดหินน้อยใหญ่ เพื่อชื่นชมกับหินที่มีลวดลายอันแปลกตาที่สวยงามน่ายล โดยมีหินที่เด่นๆอย่าง หินรูปช้างพันๆเชือกที่ก่อตัวเรียงกันเหมือนเจดีย์ช้างเป็นตัวชูโรง
        หลังจากล่องแพมาได้ระยะทางหนึ่ง ก็มาถึงไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้ลงไปเดินสัมผัสกับบรรยากาศภายในถ้ำกันด้วยเท้าของตัวเอง โดยจะเดินไปตามทางน้ำภายในถ้ำที่มีสายลมพัดผ่าน มีความเย็นและมีระดับความลึกแตกต่างกันไป ตั้งแต่สูงระดับแค่ข้อเท้าไปจนถึงสูงในระดับน่อง
       ระหว่างทางที่เดินจะได้เพลินเพลินกับการประติมากรรมหินที่น่าอัศจรรย์ใจ อาทิ บ่อน้ำมนต์รูปหัวช้าง หินรูปไดโนเสาร์ รูปเต่ายักษ์ เป็นต้น ส่วนหินยอกหินย้อยที่จัดว่าเป็นอันซีนของถ้ำพุงช้าง ก็คือ หินรูปช้างเผือกสีขาวนวล มีดวงตา มีใบหู มีขาหน้า และมีงวงยื่นออกมา เหมือนช้างจริงๆ แถมยังมีหินสีแดงปกคลุมเฉพาะตัวช้างอีกต่างหาก เปรียบเสมือนช้างที่มีเสวตฉัตรปกคลุมอยู่เหนือเศียรของช้าง ดูแล้วน่าทึ่งในความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์และหยิบยื่น

การเดินทาง


โดยรถโดยสาร พังงาไม่มีการโดยสารโดยเครื่องบิน หรือรถไฟ
การเดินทางภายใน พังงา
ในตัวเมืองพังงามีรถโดยสารประจำทางไปยังอำเภอต่างๆ ได้อย่างสะดวก
 
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการ ยานพาหนะได้หลายรูปแบบตามอัธยาศัย
สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีขนส่งพังงา โทร. 0 7641 2300
นอกจากนี้ยังมีรถสองแถวไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น ถ้ำพุงช้าง ถ้ำฤาษีสวรรค์ ฯลฯ
คิวรถสองแถวและ รถตู้ส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมืองและบริเวณสถานีขนส่งพังงา
นอกจากเส้นทางบนบก ยังมีท่าเรือสำหรับไป เที่ยว เกาะหลายแห่ง เช่น
ไปเที่ยวอ่าวพังงา ติดต่อเรือได้ที่ท่าเรือบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
ท่าเรือ ท่าด่านศุลกากร เป็นท่าที่อยู่ใกล้ตัวเมืองที่สุด ท่าเรือสุระกุล (ท่าเรือกระโสม)
อยู่ในอำเภอตะกั่วทุ่ง ไปหมู่เกาะ สุรินทร์หรือเกาะพระทอง ติดต่อเรือได้ที่ท่าเรือคุระบุรี
ไปหมู่เกาะสิมิลัน ติดต่อเรือได้ที่ท่าเรือทับละมุ ไป เกาะยาวน้อย-เกาะยาวใหญ่
ติดต่อเรือได้ที่ท่าเรือท่าด่านศุลกากร เป็นต้น

ระยะทางจากอำเภอเมืองพังงาไปยังอำเภอต่างๆ คือ
อำเภอตะกั่วทุ่ง 12 กิโลเมตร
อำเภอทับปุด 26 กิโลเมตร
อำเภอกะปง 47 กิโลเมตร
อำเภอท้ายเหมือง 57 กิโลเมตร
อำเภอตะกั่วป่า 65 กิโลเมตร
อำเภอคุระบุรี 125 กิโลเมตร
อำเภอเกาะยาว 138 กิโลเมตร

ติดต่อเรา


ติดต่อ ทีมงานเว็บไซต์ paiphangnga

1.นายณัฐวุธ แซ่ตัน
2.นางสาวมาริสา สมบูรณ์
3.นางสาวยุวดี เทพพูลผล
4.นางสาวสุภาภรณ์ ภู่กุล
5.นางสาวชุติมา วิประจง
6.นายเพิ่มพล จินดาพล

เบอร์โทรศัพท์ 087-2818479, 084-454312 , 082-4189169

E-mail : p.tech_23@hotmail.com, saetan_123@yahoo.com, yuwadee_34@hotmail.com

website : www.paiphangnga.freevar.com